สภาทองคำโลก ผลักดันใช้บล็อกเชนติดตามทอง สร้างความโปร่งใส ป้องกันฟอกเงิน พร้อมออกโทเคนหนุนด้วยทองคำจริง หวังรายย่อยซื้อขายง่ายขึ้น
David Tait ประธานสภาทองคำโลก กล่าวว่า ถึงเวลายกเครื่องการซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำใหม่ จากในอดีตที่มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย ที่มีธนาคารเพียงไม่กี่แห่งดูแลการธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำ ซึ่งตลาดทองคำทั่วโลกมีมูลค่ารวมกว่า 11 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยสภาทองคำพยายามผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อติดตามทองคำแท่งแทบทุกแท่งในโลก ซึ่งสามารถช่วยสร้างความมั่นใจโดยตรวจสอบที่มาที่มาของผู้ซื้อและผู้ขาย และช่วยป้องกันการฟอกเงินได้
หลังจากนั้นเมื่อเริ่มใช้งานได้แล้ว David Tait เสนอว่า ควรจะมีการสร้างโทเคนที่หนุนด้วยทองคำจริงเพื่อให้มีการซื้อขายได้ขึ้นง่าย
David Tait กล่าวอีกว่า การแปลงทองคำให้เป็นดิจิทัลนั้นจะทำให้นักลงทุนรู้สึกสบายใจในการถือครอง และทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงตลาดทองคำโดยตรง และมีมาตรฐานเดียวกันได้มากขึ้น
แต่เดิมที่การซื้อขายทองคำของรายย่อยจะมาตรฐานการเทรดที่แตกต่างออกไปในแต่ละพื้นที่ เช่น ลอนดอน ใช้ทองคำ 400 ออนซ์ ในขณะที่ COMEX Futures ของสหรัฐฯ ใช้ทองคำ 100 ออนซ์ และถ้ามีการซื้อปริมาณขั้นต่ำลงไป ก็อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมสูงกว่า ซึ่ง David Tait มองว่า การสร้างโทเคนที่สามารถแลกเปลี่ยนกับทองคำแท่งสามารถแก้ปัญหานั้นได้
ทองคำได้รับแรงกดดันจากกฎเกณฑ์ใหม่ ที่ส่งผลให้การถือทองแท่งมีราคาแพงขึ้น ในขณะที่ผลตอบแทนน้อย รวมถึงเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากคริปโตเคอร์เรนซี โดยเฉพาะ Bitcoin ที่หลายคนขนานนามให้เป็น ทองคำดิจิทัล เหล่านี้ได้ดึงความสนใจจากนักลงทุนที่กำลังมองหาสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ แทนหุ้น พันธบัตร และเงินสด
อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ คือ การทำให้ผู้เล่นรายใหญ่ของตลาดยอมรับ ซึ่งเป็นโครงการที่เสี่ยงต่อการทำลายการครองตลาดของพวกเขา ดังนั้นโครงการดังกล่าวจึงจะต้องได้รับการสนับสนุนจากตลาดทั้งหมดตั้งแต่สถาบันการเงินใน Wall Street ไปจนถึงทางการของอินเดียและจีนด้วย.
ที่มา bloomberg