สถานการณ์น้ำท่วมและคลื่นยักษ์ซัดถล่ม 5 อำเภอในจังหวัดสตูลยังไม่คลี่คลาย บ้านเรือน-ร้านค้าพังเสียหายกว่า 50 แห่ง
สถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอของจังหวัดสตูลยังคงวิกฤต โดยเฉพาะหมู่บ้านชายทะเลใน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ละงู อ.ท่าแพ และ อ.ทุ่งหว้า ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นยักษ์ที่พัดถล่มชายฝั่งอย่างหนัก บ้านเรือนและร้านค้าติดริมทะเลได้รับความเสียหายมากกว่า 50 แห่ง โดยเฉพาะที่ ต.ปากน้ำ อ.ละงู ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ร้านค้าและบ้านพักริมทะเลถูกคลื่นซัดพังเสียหาย ทำให้พื้นที่ท่องเที่ยวแห่งนี้มีบรรยากาศเงียบเหงา นักท่องเที่ยวไม่กล้าเข้าเยี่ยมชม
นายสุมาตรา แซะอาหลี รองนายก อบต.ปากน้ำ เผยว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากน้ำทะเลขึ้นสูงในช่วงมรสุม ทำให้ชาวประมงและผู้ประกอบการร้านค้าริมทะเลได้รับผลกระทบอย่างหนัก สภาพคลื่นยังคงซัดเข้าฝั่งอย่างรุนแรงต่อเนื่อง คาดว่าสถานการณ์นี้อาจดำเนินไปอีก 2-3 วัน ส่งผลให้บ้านเรือนหลายแห่งต้องอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มขึ้น
ชาวบ้านบางส่วน เช่น นางยามีหละ สหับบิน เผยว่าคลื่นน้ำทะเลที่เข้าถล่มปีนี้ถือว่าหนักสุดในรอบหลายปี พื้นที่ชายฝั่งเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องและขาดแคลนความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ แม้ว่าจะร้องขอการสนับสนุนในการสร้างเขื่อนหรือกำแพงป้องกันคลื่นที่แข็งแรง แต่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ชาวบ้านหวังให้มีการจัดส่งถุงยังชีพและการช่วยเหลือในด้านอาหารและที่พักพิงอย่างเร่งด่วน
การวิเคราะห์สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่พร้อมของโครงสร้างพื้นฐานในการรับมือกับภัยพิบัติธรรมชาติ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่ง การสร้างเขื่อนป้องกันคลื่นที่แข็งแรงและระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพควรเป็นแนวทางสำคัญในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนเพื่อจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบและทันเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินในอนาคต