ข่าวการอพยพประชาชนในจังหวัดอิชิกาวะของญี่ปุ่น แสดงถึงความเร่งด่วนในการจัดการภัยพิบัติที่เกิดขึ้นซ้ำซ้อน ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นฝนตกหนักโดยไม่คาดคิด แต่ยังเกิดในพื้นที่ที่เคยประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงมาก่อน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอพยพโดยด่วน เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่น้ำในแม่น้ำหลายสายได้ทะลักล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชนแล้ว
คำสั่งอพยพมีผลครอบคลุมเมืองสำคัญในจังหวัดอิชิกาวะอย่าง วาจิมะ สุซุ และโนะโตะ โดยมีประชาชนกว่า 44,700 คนที่ต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่ท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ยกระดับเตือนภัยในระดับสูงสุด เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่อชีวิตจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ การจัดการกับสถานการณ์ในพื้นที่ประสบภัยต้องเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติที่มีความซับซ้อน
สถานการณ์ในจังหวัดอิชิกาวะทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด รัฐบาลจังหวัดอิชิกาวะรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 1 คนในเมืองวาจิมะ หลังเกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม นอกจากนี้ อาคารบ้านเรือนหลายหลังถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำ ขณะเดียวกันเส้นทางหลายสายถูกปิดกั้นเนื่องจากดินถล่ม โดยมีรายงานว่าบ้านอย่างน้อย 1 หลังถูกดินถล่มทับ นอกจากนี้ สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นเผยแพร่คลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ถนนในเมืองวาจิมะจมอยู่ใต้น้ำทั้งเส้น สร้างความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่และช่วยเหลือประชาชน
นอกจากจังหวัดอิชิกาวะแล้ว ประชาชนในจังหวัดนิงาตะและยามากาตะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิชิกาวะ ก็ได้รับคำเตือนให้อพยพเช่นเดียวกัน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภัยน้ำท่วมและดินถล่มจากฝนตกหนักเช่นกัน สถานการณ์ยังคงมีความเสี่ยงสูงและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
เมืองวาจิมะและสุซุ ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของแหลมโนะโตะ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักจากภัยพิบัติซ้ำซ้อน เมืองเหล่านี้เคยประสบกับแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยแผ่นดินไหวขนาด 7.5 แม็กนิจูดทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 236 ศพ แรงสั่นสะเทือนครั้งนั้นได้ทำลายอาคารบ้านเรือน ถนน และโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังเกิดไฟไหม้ใหญ่ในหลายจุดภายในเมือง ก่อให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม ความเสียหายจากแผ่นดินไหวในครั้งนั้นยังไม่ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่ ทำให้ฝนตกหนักและน้ำท่วมในครั้งนี้ยิ่งเพิ่มความทุกข์ทรมานให้กับประชาชนในพื้นที่
