จากเหตุการณ์ฆาตกรรมสยองที่ห้องพักบ้านเอื้ออาทรนาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายหลังพบศพนายอนุชา คงเครือ หรือเพชร อายุ 23 ปี อดีต รปภ. ถูกปาดคอเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยมในห้องพักของตนเอง
ล่าสุด นายวิชัย คงเครือ อายุ 60 ปี พ่อของผู้ตาย ซึ่งมีอาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างในย่านพัทยาเหนือ เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีชายวัยรุ่นรูปร่างใหญ่ ไม่ทราบชื่อ อ้างว่าเป็นเพื่อนของลูกชายและเป็นทหารเกณฑ์ในสัตหีบ ได้มาหาตนที่วินจักรยานยนต์เพื่อตามหาลูกชาย ตนจึงให้ข้อมูลพิกัดห้องพักไป เมื่อช่วงบ่ายของวันก่อนตนยังพบลูกชายมีชีวิตอยู่ แต่รุ่งเช้าวันนี้กลับได้รับแจ้งว่าลูกชายถูกฆาตกรรมแล้ว นายวิชัยเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยน่าจะเป็นเพื่อนที่มาตามหาลูกชายคนนั้น และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ร.ต.อ.ณัชพล แสงสี พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ระบุว่า หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน เวลา 17.00 น. ผู้ตายไปเดินเล่นที่ห้างบิ๊กซีเมืองพัทยา ก่อนที่ในช่วงเวลา 22.00 น. เพื่อนข้างห้องจะได้กลิ่นคาวเลือด แต่ยังไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นกลิ่นรุนแรงขึ้นจึงแจ้ง รปภ.มาตรวจสอบ เมื่อส่องดูทางหน้าต่างพบคราบเลือดจำนวนมาก จึงรีบแจ้งตำรวจมาตรวจสอบจนพบศพ
ในที่เกิดเหตุพบว่ามีการล้างคราบเลือดที่อ่างล้างหน้า และมีร่องรอยการหลบหนีออกทางประตูหลังห้อง ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่คนร้ายเข้าและออก
จากแนวทางการสืบสวน พบว่าผู้ตายเป็นอดีต รปภ.ที่ตกงานในช่วงนี้ มีนิสัยชอบดื่มน้ำกระท่อมและดูดกัญชา ตำรวจคาดว่า ผู้ตายอาจชักชวนเพื่อนเข้ามาร่วมเสพยาเสพติดในห้อง และเกิดปากเสียงกันจนกระทั่งเพื่อนลงมือฆาตกรรม ก่อนจะพยายามจัดฉากให้ดูเหมือนการฆ่าตัวตาย หลังจากก่อเหตุคนร้ายล้างตัวและหลบหนีออกจากห้อง
การวิเคราะห์ข่าว:
คดีนี้ถือเป็นคดีอาชญากรรมที่ซับซ้อนและมีเบาะแสที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งนายวิชัย พ่อของผู้ตาย ให้การว่าเคยพบชายวัยรุ่นรูปร่างใหญ่ซึ่งอ้างว่าเป็นเพื่อนของลูกชาย ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ตายกับผู้ต้องสงสัยยังเป็นปริศนา แต่จากการสืบสวนและข้อมูลการเสพยาเสพติดในห้อง บ่งบอกถึงความเป็นไปได้ที่อาจมีปากเสียงรุนแรงจนเกิดเหตุการณ์โหดเหี้ยมนี้
การจัดฉากให้เหตุการณ์ดูเหมือนการฆ่าตัวตายแสดงถึงความพยายามในการปกปิดร่องรอยของคนร้าย อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบกล้องวงจรปิดและการสืบสวนเพิ่มเติมจากเบอร์โทรศัพท์และพยานใกล้ชิดจะช่วยให้ตำรวจสามารถแกะรอยคนร้ายและนำตัวมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
