รับทำเว็บ/SEO/Google Ads.พร้อมดูแล Click👉

เปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์! แรงงานเมียนมา 36 ชีวิต ซุกกลางป่าชุมพร รอส่งต่อชายแดนใต้

18

“เปิดโปงขบวนการค้ามนุษย์! แรงงานเมียนมา 36 ชีวิต ซ่อนเงียบกลางป่าชุมพร รอส่งต่อชายแดนใต้ สู่ปลายทางประเทศเพื่อนบ้าน”

เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารราบที่ 2521 และชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 (ฉก.ร.25) ภายใต้การนำของ พ.อ.อภิชัย เรืองฤทธิ์ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจ ได้เข้าตรวจสอบและจับกุมแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 36 คน ในแคมป์ลับกลางป่ารกชื้นในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลรับร่อ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร

การวางแผนจับกุม

จากการรายงานของสายข่าว เจ้าหน้าที่ทราบว่ามีขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาเข้ามาพักคอยอยู่ในแคมป์จุดพักกลางป่า โดยใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นจุดพักรอก่อนถูกส่งต่อไปยังชายแดนภาคใต้ เพื่อเดินทางสู่ประเทศเพื่อนบ้าน

หลังจากสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณเชิงเขาห่างไกลชุมชน ห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 5 กิโลเมตร พบว่ามีเต็นท์ทำจากผ้าใบและผ้ายางถูกสร้างไว้กลางป่า มีเศษขยะ ถุงอาหาร และขวดน้ำทิ้งเกลื่อนพื้นที่ ภายในเต็นท์พบแรงงานชาวเมียนมา 36 คน แยกเป็นชาย 24 คน และหญิง 12 คน ทุกคนอยู่ในสภาพอิดโรย ไม่ได้อาบน้ำมานานหลายวัน และไม่มีเอกสารหรือหนังสือเดินทางใดๆ ขณะที่นายหน้าและผู้นำพาได้หลบหนีไปก่อนแล้ว

คำให้การของแรงงาน

จากการสอบสวนเบื้องต้น แรงงานชาวเมียนมากล่าวว่าพวกเขาถูกนายหน้าลักลอบนำพาจากพื้นที่ต่างๆ ในประเทศเมียนมา โดยเริ่มจากการเดินทางมาย่างกุ้ง จากนั้นถูกพาต่อไปยังเมาะลำไย และข้ามชายแดนมาลงที่หมู่บ้านเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมาถูกขนย้ายด้วยรถยนต์ SUV มาถึงแคมป์พักในป่าชุมพร ซึ่งพวกเขาต้องรออยู่ในจุดนี้เป็นเวลา 5 วัน เพื่อรอทีมงานขบวนการค้ามนุษย์มารับช่วงเดินทางต่อไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

แรงงานเหล่านี้ระบุว่า ญาติพี่น้องของพวกเขาจะชำระค่าหัวคนละ 50,000 บาท เมื่อเดินทางถึงประเทศมาเลเซียสำเร็จ ซึ่งสะท้อนถึงความโหดร้ายของการค้ามนุษย์ที่ใช้แรงงานเป็นเครื่องมือในการหากำไร

การดำเนินคดี

เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ส่งต่อให้สถานีตำรวจภูธรท่าแซะ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งตัวกลับประเทศต้นทางต่อไป

สะท้อนปัญหาการค้ามนุษย์

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของขบวนการค้ามนุษย์ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง ตั้งแต่การขนย้ายแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน การใช้พื้นที่ห่างไกลเป็นจุดพักคอย ไปจนถึงการส่งต่อไปยังปลายทางในประเทศเพื่อนบ้าน นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงปัญหาการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจในประเทศเมียนมา ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้

ข้อเสนอแนะ

เพื่อแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงการเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้