ในยุคที่เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ก้าวล้ำหน้า การพูดถึงเรื่องเหนือธรรมชาติอาจฟังดูเกินจริงสำหรับบางคน แต่เมื่อเหตุการณ์บางอย่างไม่สามารถอธิบายได้ด้วยตรรกะ มันกลับทำให้เราต้องหยุดคิด… และบางครั้ง ความเชื่อและความลี้ลับก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนโดยไม่มีใครคาดคิด
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว: ต้นมะขามกลางทุ่งนา
เรื่องนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลดอนเมือง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งกลายเป็นวันที่ชาวบ้านไม่มีวันลืม น.ส.สวัสดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี หญิงชราที่เป็นที่รักของคนในชุมชน หายตัวไปหลังจากออกไปเก็บมะขามสุกใกล้บ้านเพื่อนำมาแกะขาย จนกระทั่งสามีของเธอออกตามหาและพบศพของเธอในสภาพห้อยหัวลงมาจากต้นมะขามใหญ่กลางทุ่งนา!
“ตอนแรกเราคิดว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดา” นายไฉน แซวจันทึก ชาวบ้านในพื้นที่เล่า “แต่พอเห็นภาพถ่ายที่ทีมกู้ภัยถ่ายไว้… เราแทบรับไม่ได้!”
ภาพปริศนาที่ทำให้ทุกคนขนหัวลุก
เมื่อทีมอาสากู้ภัยเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและบันทึกภาพไว้หลายมุม พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นอะไรผิดปกติในขณะนั้น แต่เมื่อเปิดดูภาพในภายหลัง กลับพบบางสิ่งที่ทำเอาทุกคนต้องตกตะลึง!
บนตอไม้ใกล้จุดที่ศพถูกพบ ปรากฏใบหน้ามนุษย์สองใบมองตรงมาอย่างชัดเจน ใบหน้าด้านบนดูเหมือนคนแก่นั่งยองๆ ส่วนใบหน้าด้านล่างคล้ายเงยหน้ามองขึ้นมา สายตาของพวกเขากำลังจ้องเขม็งใส่กล้อง ราวกับเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ผมไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้มาก่อน แต่พอเห็นภาพนี้ ผมขนลุกจริงๆ” นายไฉนกล่าวพร้อมยกมือไหว้เบาๆ “มันเหมือนใบหน้าคนจริงๆ นะ”
“ตาแก้ว” เจ้าของที่ดินเดิม?
ชาวบ้านหลายคนเริ่มพูดถึง ตาแก้ว อดีตเจ้าของที่ดินผืนนี้ ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อนที่จังหวัดหนองคาย แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่าใบหน้าปริศนานั้นคือวิญญาณของเขาหรือไม่ แต่หลายคนเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับประวัติศาสตร์ของพื้นที่
“เราไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนในหมู่บ้าน แต่พอเห็นภาพนี้ หลายคนก็เริ่มพูดถึงตาแก้วกันเยอะ” นายไฉนเสริม “แต่เรื่องแบบนี้ ผมว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ถ้าเคารพก็ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาหน่อย”
ผลกระทบต่อชาวบ้าน
หลังจากเหตุการณ์นี้ ชาวบ้านหลายคนเริ่มหวาดผวาและไม่กล้าเข้าใกล้ต้นมะขามต้นนี้อีก บางคนถึงกับนำดอกไม้ ธูปเทียน มากราบไหว้ขอขมา เพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไป ขณะที่บางคนเริ่มระแวดระวังมากขึ้นในการทำกิจกรรมใกล้บริเวณนั้น
“มันอาจจะเป็นแค่ภาพที่เกิดจากการสะท้อนแสง หรืออะไรก็ตาม แต่สำหรับผม มันดูเหมือนใบหน้าคนจริงๆ” นายไฉนกล่าวปิดท้าย “หากไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ก็อย่าลบหลู่ แต่ถ้าใครอยากลองดี ผมแนะนำว่าอย่าไปยุ่งเลย…”
บทสรุป: ความลี้ลับที่ยังคงเป็นปริศนา
เรื่องราวของ “ยายห้อยหัวบนต้นมะขาม” และภาพใบหน้าปริศนาที่ปรากฏในภาพถ่าย กลายเป็นตำนานใหม่ที่ถูกเล่าขานต่อไปในหมู่บ้านแห่งนี้ แม้จะไม่มีคำตอบแน่ชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติหรือเพียงแค่ความบังเอิญ แต่เรื่องราวนี้ได้สร้างความหวาดผวาและเปลี่ยนชีวิตชาวบ้านไปตลอดกาล
คำเตือน
หากคุณพบเจอเรื่องราวลี้ลับหรือสถานที่ที่มีความเชื่อเรื่องอาถรรพ์ การแสดงความเคารพและการไม่ลบหลู่ถือเป็นสิ่งสำคัญ อย่าลืมว่า… บางครั้งความเชื่อก็เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่เราควรให้ความสำคัญ