รับทำเว็บ/SEO/Google Ads.พร้อมดูแล Click👉

เฒ่าวัย 62 หึงโหด ฆ่ารัดคอเมียหมกศพคาห้องพักบ้านเอื้ออาทร คลองหลวง

63

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุมนายฐานันตร์ เจียมศิริ วัย 62 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากที่เขาลงมือรัดคอนางดารุณี แสงอากาศ อายุ 53 ปี ภรรยาที่คบหากันมานานกว่า 7 เดือน จนเสียชีวิตในห้องพักภายในโครงการบ้านเอื้ออาทร คลองหลวง ปทุมธานี ศพของนางดารุณีถูกพบในสภาพอืด มัดมือมัดเท้าด้วยสายไฟ ภายหลังจากที่ตำรวจชุดสืบสวนไล่ติดตามจนจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ใน จ.นครสวรรค์ ระหว่างที่เขาพยายามหลบหนีไป จ.เชียงใหม่

เหตุการณ์และแรงจูงใจของผู้ต้องหา

จากการสอบสวน นายฐานันตร์รับสารภาพว่า เขาคบหากับผู้ตายมาได้ 7 เดือน โดยมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและเกิดความระแวง เนื่องจากฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่าง โดยอ้างว่าจะไปดูแลแม่ที่ป่วย แต่กลับไม่สามารถติดต่อได้ และยังมีการขนข้าวของออกจากห้องจนหมด ทั้งยังมีพฤติกรรมที่ทำให้ผู้ต้องหาสงสัยว่าผู้ตายอาจมีคนอื่น เมื่อเขาไปแจ้งความข้อหาลักทรัพย์ หวังว่าจะได้พบผู้ตาย แต่เมื่อได้พบกัน ฝ่ายหญิงกลับตอบไม่ตรงไปตรงมาว่าจะเลิกพฤติกรรมเจ้าชู้หรือไม่

ในวันที่เกิดเหตุ ทั้งคู่มีปากเสียงกันในห้องพัก ผู้ต้องหาต้องการให้ผู้ตายยืนยันว่าจะเลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ แต่เมื่อผู้ตายปฏิเสธ ไม่รับปากว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรม ผู้ต้องหาจึงบันดาลโทสะ ขณะผู้ตายนอนคว่ำอยู่บนเตียง เขาหยิบสายไฟเตารีดมารัดคอจนสลบ ก่อนจะใช้สายไฟอีกเส้นมัดมือมัดเท้าของผู้ตายด้วยความกลัวว่าผู้ตายจะฟื้นขึ้นมาแกะสายไฟที่รัดคอ

หลังจากก่อเหตุ นายฐานันตร์ล็อกประตูห้องและหลบหนีไป จ.นครสวรรค์ และมีแผนจะหนีไปถึง จ.เชียงใหม่ แต่ถูกตำรวจจับกุมตัวได้ทันเวลา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และนำตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดีที่ศาลจังหวัดธัญบุรี โดยผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ

วิเคราะห์ข่าว: ปัญหาความรุนแรงและผลกระทบจากความหึงหวง

กรณีนี้เป็นตัวอย่างชัดเจนของความรุนแรงที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ซึ่งมักเกิดจากปัญหาความหึงหวงและความไม่ไว้วางใจระหว่างคู่รัก ความสัมพันธ์ของนายฐานันตร์และนางดารุณีแสดงให้เห็นถึงความระแวงในเรื่องการมีคนอื่น โดยผู้ต้องหามีความสงสัยและระแวงว่าผู้ตายนอกใจ จนเกิดความเครียดสะสม ซึ่งในที่สุดความรู้สึกหึงหวงนี้ได้ปะทุออกมาในรูปแบบของความรุนแรงถึงขั้นทำให้เกิดการฆาตกรรม

ปัจจัยที่นำไปสู่การก่อเหตุ

  1. ความไม่ไว้วางใจและการขาดการสื่อสาร: ในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก การขาดการสื่อสารที่ดีและความไม่เข้าใจซึ่งกันและกันสามารถนำไปสู่การระแวงสงสัย การที่ฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่างและไม่ให้คำยืนยันว่าจะเลิกเจ้าชู้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และท้ายที่สุดคือการลงมือก่อเหตุฆาตกรรม
  2. ความรุนแรงทางอารมณ์และการจัดการอารมณ์ที่ไม่ดี: ความหึงหวงและโกรธแค้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ต้องหาตัดสินใจก่อเหตุร้ายแรง การขาดทักษะในการจัดการกับอารมณ์เชิงลบและความเครียดทางจิตใจอาจทำให้สถานการณ์ที่ควรจบลงด้วยการพูดคุยและตกลงกันกลับกลายเป็นเหตุการณ์สลดที่ไม่อาจย้อนคืนได้
  3. การปฏิเสธความช่วยเหลือจากภายนอก: การขาดการขอความช่วยเหลือจากครอบครัว เพื่อน หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านความสัมพันธ์ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลาย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น การมีระบบสนับสนุนจากภายนอกอาจช่วยลดความรุนแรงได้

ผลกระทบทางสังคม

ข่าวเหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่ยังคงเกิดขึ้นในสังคมไทย แม้ว่าปัจจุบันจะมีการรณรงค์เรื่องสิทธิและความเท่าเทียมในความสัมพันธ์ การสื่อสารและการจัดการอารมณ์เป็นเรื่องสำคัญที่ควรได้รับการใส่ใจ การให้คำปรึกษาและการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและการจัดการความสัมพันธ์ควรถูกนำมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้ในอนาคต