ข่าวน้ำท่วมภาคเหนือครั้งนี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภูเขาสูงหลายแห่ง เช่น ดอยสะเมิง ดอยสุเทพ ดอยปุย ในจังหวัดเชียงใหม่ และดอยขุนตาลในจังหวัดลำปาง ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มต่ำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความเสียหายในหลายอำเภอ รวมถึงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์ดินสไลด์ที่ส่งผลกระทบต่อการคมนาคม เช่น การหยุดเดินรถไฟระหว่างลำปางและเชียงใหม่
ในจังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดได้แก่ อำเภอหางดง เชียงดาว และแม่ริม ที่น้ำป่าไหลเข้าท่วมหมู่บ้านและแหล่งชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแม่ริมที่น้ำป่าจากดอยสุเทพปุยไหลเข้าท่วมหลายตำบล รวมถึงวัดคีรีบรรพตที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจนถึงขั้นที่โลงเย็นถูกน้ำพัดลอยไปติดอยู่ที่หอประชุม นอกจากนี้ ยังมีการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เช่น ผู้ป่วยติดเตียงออกจากพื้นที่ประสบภัยเพื่อความปลอดภัย
ที่จังหวัดลำปาง สถานการณ์ไม่ต่างกันนัก โดยมีฝนตกหนักในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากกลางดึกซัดบ้านเรือนและถนนไม่สามารถใช้งานได้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย และยังเกิดเหตุการณ์ดินสไลด์ปิดกั้นเส้นทางเข้าหมู่บ้าน ส่งผลกระทบต่อการเดินทาง
นอกจากนี้ จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตรก็กำลังเผชิญกับมวลน้ำที่กำลังจะไหลเข้ามา ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือยังคงน่าเป็นห่วง โดยหลายพื้นที่ยังมีฝนตกต่อเนื่องซึ่งอาจทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลง
วิเคราะห์ข่าว
สภาพอากาศในประเทศไทยช่วงนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักที่เกิดจากมรสุม และอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ที่ทำให้ความถี่และความรุนแรงของภัยพิบัติธรรมชาติเพิ่มขึ้น สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือ น้ำป่าที่ไหลลงมาจากดอยสูงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งยากต่อการป้องกันและรับมือ ประชาชนในพื้นที่เหล่านี้ควรมีแผนการเตรียมตัวและอพยพเมื่อมีประกาศเตือนภัย
นอกจากนี้ การเตรียมพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบระบายน้ำ และการเตรียมที่พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการลดผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม