เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 รายงานจากจังหวัดสกลนคร ระบุว่าเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายใช้อาวุธครบมือ บุกเข้าหน่วยป้องกันรักษาป่า สน.2 (วาริช-พรรณา) ริมถนนทางหลวงหมายเลข 2218 บ้านกุดตะกาบ ตำบลกุดตะกาบ อำเภอวาริชภูมิ จ.สกลนคร กลางดึกวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 คนร้ายได้จับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 คนมัดมือมัดเท้า และใช้ผ้าคลุมศีรษะ จากนั้นได้ยึดปืนลูกซองของเจ้าหน้าที่จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุน และขนไม้พะยูงที่ถูกตรวจยึดไว้ขึ้นรถกระบะหลบหนีไป
ลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน
หลังจากเกิดเหตุ ในช่วงเช้าของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วย พ.ต.อ.วรวิทย์ นนท์พละ ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดสกลนคร ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาเบาะแสติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
สืบสวนพบคนร้าย 5-7 คน คาดเป็นการโจรกรรมที่มีการวางแผนล่วงหน้า
พ.ต.อ.อัษดิน เปิดเผยในการแถลงข่าวว่าจากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่ามีชายฉกรรจ์จำนวน 5-7 คน สวมชุดดำปิดบังใบหน้า พร้อมอาวุธครบมือ ได้บุกเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ มัดมือมัดเท้า และทำร้ายร่างกาย ก่อนขนไม้พะยูงจำนวน 19 ท่อน ปริมาตร 1.65 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าประมาณ 825,000 บาท หลบหนีไปทางอำเภอพังโคน โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่สืบสวนจากตำรวจภูธรภาค 4 ได้เข้ามาสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และได้สอบสวนเจ้าหน้าที่และอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันป่าไม้ สน.2 อย่างละเอียดเพื่อคลี่คลายคดี
คนร้ายรู้ตำแหน่งไม้พะยูงและกล้องวงจรปิด คาดเตรียมการมาอย่างดี
จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายน่าจะทราบข้อมูลภายในของหน่วยป่าไม้เป็นอย่างดี รู้ตำแหน่งที่เก็บไม้พะยูงและจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งมีการวางแผนเส้นทางหลบหนีอย่างรัดกุม ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่มีเบาะแสผู้ต้องสงสัยบางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อนจะยื่นขอหมายจับจากศาล คาดว่าจะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ในเร็ว ๆ นี้
ประวัติการโจรกรรมไม้พะยูงและการสอบสวนต่อเนื่อง
สำหรับไม้พะยูงที่ถูกปล้นไปนั้น เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันป่าไม้ สน.2 วาริช-พรรณา ได้ตรวจยึดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2567 ถูกโจรกรรมไปแล้วจำนวน 18 ท่อน และได้แจ้งความไว้ที่ สภ.วาริชภูมิ โดยพนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำในวันที่ 10 พฤศจิกายน แต่กลับมาเกิดเหตุปล้นอีกครั้งก่อนการสอบปากคำจะเริ่ม
เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.